เลห์ ลาดักห์เป็นหนึ่งในสถาณที่ ชาวคนรักการถ่ายรูปสักครั้งนึง ต้องไปกันให้ได้!!! เพราะความสวย เเละอลังการงานสร้างของธรรมชาตินี่ เรียกได้ว่า "สุดจริงๆ" . มีทั้งภูเขาสูงสุดๆ (Khardung La Pass) สูงถึง 5,600 เมตร!!! เเถมถนนหนทางที่เราไปก็ยาวววววววว สุดลูกหูลูกตาอีก เเนบคู่ไปกับลําธารน้ำใหญ่ ที่ไหลลงมาจากเขาหิมาลัยอีก บอกเลย เลห์ ลาดักห์ สุดจิงๆครับ ต้องมา!!!!!
DAY 1
ในวันเเรกของการเดินทาง พวกเราเดินทางจาก สนามบิน สุวรรณภูมิ - เดลี - ศรีนาคา ซึ่งกว่าจะไปถึงก็กินเวลาไปบ่ายโมงเเล้ว
(จริงๆ เราสามารถขึ้นเครื่องบินตรง เดลี-เลห์ ได้เลย เเต่เราอยากค่อยๆปรับ สภาพร่างกายเราให้เหมาะกับ เลห์ ที่มีความสูงถึง 3,000 เมตร เเละ อยากไปดูวิวที่สวยงามตระการตาก่อนถึง เลห์ ด้วย)
.
.
เราก็เลยมานอนที่ศรีนาคา เเคชเมีย 1 คืน
ปิดท้ายของวันด้วยการช้อปปิ้ง สักหน่อยเเล้วกัน ><
--------------------------------------------
555555 ปวดหัวเลย ทีเดี่ยว xD
DAY 2
เราก็ยังอยู่กับการเดินทางไป เลห์ ครับ เเต่รอบนี้ไม่ธรรมดา เราจะเดินทาง ผ่านโซน่ามาร์ค เเล้วก็ผ่าน หนึ่งในถนนที่อันตรายที่สุดในโลก Zoji Pass อีกด้วย!!!!!! ซึ่งเราจะใช้เวลาเดินทาง 5-6 ชั่วโมง เพื่อที่จะเดินทางจาก ศรีนาคา ไป คาร์กิว หรือเป็นครึ่งทางก่อนถึงเลห์ นั้นเองครับ
.
.
^^^^^ #Zojipass หนึ่งในถนนที่อันตรายที่สุดในโลก!!!! ถนนถอดยาว หมอกลงหน่อยๆสวยมาก xD
โชคดีมากๆครับ ตอนนั้นเจอรุ้งพอดีเลย ใหญ่เเล้วก็สวยมากกกกก
เเล้วก็ตามเคย ขอปิดท้ายวันด้วยการ ช้อปปิ้ง ที่ คาร์กิว !!!!
------------------------------------------------------------
Day 3
เปิดฉากวันที่ 3 มา ก็จะเป็นการเดินทางการ คาร์กิว ไป เลห์ ใช้เวลาเดินทาง ทั้งวันเหมือนเคยครับ เเต่บอกเลยว่าวันที่ 3 นี่ไม่ธรรมดาเหมือนกันนะ เพราะ ระหว่างทางผ่านเนี้ย ผมได้ถ่ายรูปไปเกือบ 1000 รูปใน 1 วัน!!!!! AMAZING!!!!! ระหว่างการเดินทางจะมีภูเขาที่จะมีสีเเตกต่างกันไป สีเเดง,สีเหลือง,สีม่วง,สีฟ้า ซึ่งเป็นอะไรที่สวยมากๆ เราเเวะหยุด ถ่ายรูปเรื่อยๆเป็นจุดๆ เเวะทั้งวัดทิเบต, เเวะบนยอดเขา, เเวะ Moonland, เเวะไปหมด 55555
.
.
.
ดูถ้าจะหนาวมาก ก็เเน่ล่ะ อยู่สูงตั้ง 2600 เมตรนี่!!!!!!
ยิ่งสูงยิ่งหนาววววววววว
บุกสวน เเอปปริคอท
ไฮล์ไลท์เลยก็ว่าได้เพราะสวยมากจริงๆ
--------------------------------------------------
Day 4
วันที่ 4 เราก็อยู่กันที่ เลห์ ลาดักห์ กันเรียบร้อยเเล้วครับบ!!!! ทุกคนพร้อมใจกันเเต่งชุดอินเดียเพื่อถ่ายรูปกันเเบบเต็มสูบ วันที่ 4 นี้นะครับเราก็จะไปเที่ยวรอบๆ เมืองเลห์นั้นเองครับ
.
.
---------------------------------------------------------
Day 5
ตื่นเช้ามาวันที่ 5 เราก็กำลังจะเดินทางจาก เลห์ ไป นูบรา วอลเลย์ ซึ่งการเดินทางจะใช้เวลาเกือบ 10 ชั่วโมงกันเลยทีเดี่ยว เเถมวันนี้เราจะเดินทางผ่านจุดที่สูงที่สุดในทริป เป็นภูเขาที่สูงที่สุดเอเชีย Khardung La Pass ที่สูงถึง 5,600 เมตร!!!! เป็นอะไรที่ท้าทายมากเพราะ เเค่อยู่ที่เลห์ที่มีความสูงถึง 3,000 กว่าเมตร เราก็หายใจกันรำบากเเล้วเพราะออกซิเจนน้อยกว่าปกติที่เราเคยชิน เเต่เมื่อต้องมาเจอ Khardung La Pass ที่สูงถึง 5,600 เมตร เเล้วนั้น เราก็เลยต้องเตรียมตัวให้พร้อมเข้าไว้ ด้วยการกินยา เเละ ดื่มน้ำเยอะๆ
.
.
เห็นดูชิวๆ เเบบนี้เเต่จริงๆหนาวมากนะครับ -''-
ลงมาเเล้วครับ เเต่ถึงจะบอกว่าลง เเต่ความสูงก็อยู่ที่ 4,000 กว่าเมตร อยู่ดี
คืนนี้เราพักกันเเบบนี้ครับ รับบรรยกาศ เเบบคนพื้นเมือง นูบลา วอลเลย์สักหน่อย
อาาาาาาาาาาาาาห์ สิเพน ยาาาาาาาาาาาร์ xD
ทำไมมารุมผมคนเดี่ยวล่ะครับเนี้ย -''-
ดูจากหน้าเเล้ว สงสัยจะมีความสุข xD
จะเผาว่านี่ไม่ใช่รถเรานะ เเค่ยืมถ่ายรูปเฉยๆ 5555
เเล้วก็จบวันที่ 5 กับน้องอูฐ ยิ้มเก่งตัวนี้ครับ
-----------------------------------------------------
Day 6
ลุยกันต่อกับวันที่ 6 เเล้วนะครับ วันนี้เราก็จะเดินทางไป Pangong Lake นั้นเอง ซึ่งจะบอกเรราว่าทริปนี้พวกผมโชคดีมากครับพี่ฟ้าเปิดพอดี ตอนเราไปถึงครับทำให้น้ำที่ Pangong Lake กลายเป็นสีฟ้าสด สวยใสสะท้อนกับท้องฟ้า เลยทำให้ ณ ช่วงเวลานั้นสำหรับผม ผมรู้สึกว่านั้นคือทะเลสาบที่สวยที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาเลยครับ
.
.
หนังอินเดียก็มาาาาา
ตัวมาร์มอตครับ น่ารักมากกกกก
อ่ะ ถึงเเล้ว Pangong Lake พร้อมนะครับ 3...2...1..
ทะเลสาบก็จะมีส่วนของ 2 tone ด้วย (ภาพไม่ได้เเต่งเลย เเต่สีนี่สดมากๆครับ)
นี่คือตัวจามาลีครับ
ครอินเดียขอถ่ายรูปหน่ออยยยยย
หลอกท่ามาจากหนังอินเดียครับบ เรื่อง 3 idiots
เรามาจบวันที่ 6 ด้วยรีวิวการดื่มเเล้วล้างหน้าที่ Pangong lake นะครับ 555
น้ำสะอาดมากครับ ใสเเจ๋วเลย สมเป็นน้ำที่ไหลมาจากเขาฮิมาลัยจิงๆ เเต่ก็เย็นมากๆเช่นกันครับ ดื่มเเล้วเข็มมากกกก เหมือนน้ำทะเลเลย พอเอามาล้างหน้าเเล้วรู้สึกดีนะครับเย็นสบาย
(ที่ทะเลสาบ Pangong lake สามารถเป็นสีฟ้าสดเเบบนี้ได้นั้น ไม่ใช่เพราะตัวน้ำเองนะครับ เเต่เป็นเพราะหินที่มีเเร่ธาติที่อยู่ใต้ล่างต่างหากครับ หินนั้นจะเหมือนหินเคลือบเงากระจก พอสะท้อนกับเเสงเเล้วผ่านน้ำอีกที เเละด้วยจำนวนหินที่มีอยู่เต็มไปหมดทำให้ใต้ล่างทำให้ น้ำของ Pangong lake เป็นสีฟ้าสด หรือสีเทาคลุมเครือ ก็ได้เเล้วเเต่ฟ้าจะเป็นใจ)
-------------------------------------------------------------------
Day 7 Last day
วันสุดท้ายวันที่ 7 ก็เป็นวันเดินทางกลับ รอบนี้ขึ้นจากสนามบิน เลห์-เดลี เเล้วบินตรง กลับ สุวรรณภมูิ เลยครับ
สรุป
เป็นทริปที่คนที่ชอบถ่ายรูปควรไปจริงๆครับ เพราะไฮล์ไลท์ไม่ได้อยู่ที่สถาณที่เที่ยวเเต่ละจุดครับ เเต่คือระหว่างทางต่างหาก เพราะฉะนั้นเนี้ยไม่ว่าจะตรงไหนคุณก็สามารถถ่ายรูปเเละลงจากรถไปเดินเดินได้ตลอด ขอบคุณนะครับที่อ่านกันมาถึงตรงนี้ ถ้าใครมีเเผลนที่จะไปหรือสงสัยอะไรสามารถติดต่อผมได้เลยนะครับ บายยยยยย